บริษัท สิทธิพรพาณิชย์ จำกัด
“แม้ว่าจะเรียนทำรองเท้ามาจากอิตาลี แต่ลูกค้าที่มีกำลังซื้ออาจยังไม่เชื่อมั่น การทำให้ลูกค้าหันมาสนใจแบรนด์ของเรา
จึงต้องมีนวัตกรรม เพื่อสร้างจุดขายที่แตกต่างในตลาด”

คุณคงเดช สิทธิสุพร กรรมการ บริษัท สิทธิพรพาณิชย์ จำกัด
สัมภาษณ์และเรียบเรียงโดย
งานสื่อสารและขับเคลื่อนความรู้
ฝ่ายเผยแพร่เทคโนโลยีวัสดุ
บริษัท สิทธิพรพาณิชย์ จำกัด ผลิตรองเท้าแบรนด์ THREE Shoes รองเท้าหนังสัญชาติไทยสไตล์อิตาเลียนแบบ MTO หรือ Made to Order โดยการตัดเย็บรองเท้าจะวัดขนาดเท้าและเลือกออปชันต่างๆ ก่อน เพื่อให้ได้รองเท้าที่มีขนาดและรูปร่างเหมาะสมกับสรีระของฝ่าเท้า และตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด
คุณคงเดช สิทธิสุพร กรรมการบริษัท กล่าวว่า
“บริษัทฯ เป็นธุรกิจครอบครัวที่เริ่มดำเนินการตั้งแต่รุ่นคุณปู่ สานต่อธุรกิจโดยคุณพ่อ และต่อมาก็ผม ซึ่งเป็นเจนเนอเรชันที่ 3 โดยผมไปศึกษาการทำรองเท้าที่ร้าน Stefano Bemer ประเทศอิตาลีจนได้รับใบประกาศนียบัตร เมื่อกลับประเทศไทยก็นำความรู้มาผลิตรองเท้าหนังคัทชูโดยวางจำหน่ายที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำหลายแห่ง เช่น สยามพารากอน เซ็นทรัลชิดลม เอ็มโพเรียม และ THREE Shoes & THREE Shoes Repair สุขุมวิท 101/1”
ด้วยความมุ่งมั่นที่จะผลิตรองเท้าทุกคู่ให้เหมาะสมและมีสไตล์สำหรับลูกค้าทุกคน บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนา คุณคงเดชเล่าว่า
“จากประสบการณ์ที่ทำรองเท้าให้ลูกค้าพบว่า มีลูกค้าจำนวนไม่น้อยที่มีปัญหาอุ้งเท้า เมื่อใส่รองเท้าจะรู้สึกเมื่อยหรือเจ็บเท้า เราก็คิดว่าน่าจะมีอะไรที่ช่วยซับพอร์ตจึงลองใช้แผ่นรองในรองเท้ายางพาราที่มีจำหน่ายทั่วไป แต่วัสดุไม่ทนทาน อีกทั้งเมื่อแผ่นยางถูกเหยียบจะกระเด้งหรือไม่ก็ยุบไปตามน้ำหนักตัว ลูกค้าบางรายนำแผ่นรองในรองเท้าที่ได้จากการไปพบแพทย์มาให้ทำรองเท้า ซึ่งเมื่อนำไปตัดรองเท้าจะได้รูปทรงรองเท้าที่ใหญ่เทอะทะไม่สวยงาม จึงเกิดแนวคิดที่จะแก้ปัญหาให้แก่ลูกค้า ทั้งผู้ที่มีอุ้งเท้าแบน อุ้งเท้าสูง และอุ้งเท้าปกติ โดยยังคงความสวยงามของรองเท้าไปพร้อมกัน”
ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของความร่วมมือระหว่างบริษัทฯ กับเอ็มเทคในการพัฒนาแผ่นรองในรองเท้าเฉพาะบุคคลที่มีรูปร่างและขนาดที่รองรับสรีระฝ่าเท้าของแต่ละบุคคล ซึ่งจะช่วยกระจายแรงที่เกิดจากการกดทับของน้ำหนักตัวได้มากขึ้น ส่งผลให้ผู้สวมใส่สามารถใส่รองเท้าเป็นเวลานานโดยไม่รู้สึกเจ็บเท้า
คุณคงเดช เล่าต่อว่า “เนื่องจากผมเป็นคนอุ้งเท้าสูงจึงทดลองกับตัวเองโดยใส่รองเท้าที่มีแผ่นรองในรองเท้าที่พัฒนากับเอ็มเทคเดินป่าเป็นระยะทาง 13 กิโลเมตรพบว่าสามารถเดินได้โดยไม่เมื่อยและเจ็บเท้า จึงเริ่มผลิตและจำหน่ายให้แก่ลูกค้า ซึ่งก็มีลูกค้าสนใจสั่งตัดอย่างต่อเนื่อง รองเท้าที่มีแผ่นรองในนี้นอกจากจะช่วยซับพอร์ตเท้าให้เดินสบายแล้ว ยังเสริมความสูงให้แก่ลูกค้าด้วย”
เมื่อถามถึงการทำตลาดเพื่อสร้างแบรนด์ คุณคงเดช กล่าวว่า
“แม้ว่าผมจะเรียนทำรองเท้ามาจากอิตาลี แต่ลูกค้าที่มีกำลังซื้ออาจยังไม่เชื่อมั่น ยิ่งถ้าเราตั้งราคาสูง เขาอาจจะเลือกแบรนด์ต่างประเทศ เช่น แบรนด์จากอิตาลีที่มีตลาดมายาวนาน ดังนั้น เราต้องทำตลาดและสร้างความเชื่อมั่น เพื่อแข่งกับแบรนด์ต่างประเทศให้ได้ การทำให้ลูกค้าหันมาสนใจแบรนด์ของเราจึงต้องมีนวัตกรรม เพื่อสร้างจุดขายที่แตกต่างจากตลาด รวมถึงใช้อินฟลูเอนเซอร์ช่วยรีวิว ตลอดจนอธิบายและแสดงผลเชิงประจักษ์ว่าการสวมใส่รองเท้าที่มีแผ่นรองในรองเท้าเฉพาะบุคคลสามารถช่วยรับน้ำหนักและกระจายแรงที่กดทับบนบริเวณปลายเท้าและส้นเท้าได้สม่ำเสมอมากขึ้น นอกจากนี้ ถ้ามองตลาดย้อนหลัง การยื่นจดสิทธิบัตรนวัตกรรมที่ทำร่วมกับเอ็มเทคเป็นการช่วยปกป้องธุรกิจจากการถูกลอกเลียนแบบได้”


นอกจากแผ่นรองในรองเท้าสำหรับรองเท้าหนังคัทชูแล้ว คุณคงเดชยังขยายผลไปยังรองเท้าแตะด้วย คุณคงเดช อธิบายว่า
“ถ้าพิจารณาส่วนแบ่งการตลาดของคนที่ใส่รองเท้าคัทชูในประเทศไทยยังมีไม่มากนัก หากจะขยายตลาดไปยังรองเท้าชนิดอื่นก็ต้องพิจารณาส่วนแบ่งการตลาดและแบรนด์คู่แข่ง ซึ่งถ้าเป็นรองเท้าแตะมีสัดส่วนที่มากกว่ารองเท้าหนังคัทชู อีกทั้งแบรนด์ที่นำเข้ามีจุดอ่อนเรื่องพื้นรองเท้าแข็ง ในเมื่อเรามีนวัตกรรมที่ทำร่วมกับเอ็มเทคอยู่แล้วจึงนำประเด็นนี้มาเสริม”
สำหรับความร่วมมือในอนาคตนั้น คุณคงเดช เผยว่า
“บริษัทสนใจ 2 เรื่อง เรื่องแรกคือ ยางกันลื่นสำหรับติดพื้นรองเท้า เนื่องจากรองเท้าที่เป็นพื้นหนัง เมื่อเดินบนพื้นกระเบื้องหรือหินอ่อนการยึดเกาะจะไม่ดีนักทำให้ผู้สวมใส่ไม่มั่นใจ การติดยางกันลื่นนอกจากจะป้องกันรองเท้าลื่นแล้ว ยังประหยัดงบสำหรับการเปลี่ยนพื้นรองเท้าหนังยกชุด ซึ่งมีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับการติดแผ่นยางที่พื้นรองเท้า”
“อีกเรื่องคือพื้นไม้คอร์กสำหรับทำรองเท้าแตะ เนื่องจากประเทศไทยยังไม่มีใครผลิตจำเป็นต้องนำเข้าจากประเทศจีน หากเอ็มเทคมีผู้เชี่ยวชาญก็น่าจะมีความร่วมมือกันได้ในอนาคต”
ในช่วงสุดท้ายของการสัมภาษณ์ คุณคงเดชได้ให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินการร่วมกันว่า
“การดำเนินงานที่ผ่านมามีความพึงพอใจมาก (ประเมินคะแนนได้ 4.5 เต็ม 5) อย่างไรก็ดี หากเอ็มเทคสามารถเสริมปัจจัยขั้นพื้นฐาน เพื่อรองรับการผลิตแผ่นรองในรองเท้าตามออร์เดอร์ที่อาจเพิ่มมากขึ้นในอนาคต รวมถึงลดต้นทุนได้มากขึ้นอีกก็จะเป็นประโยชน์มาก”