กลุ่มบริษัท เอสบี เฟอร์นิเจอร์

740 Views

กลุ่มบริษัท เอสบี เฟอร์นิเจอร์ ผู้นำด้านนวัตกรรมและดีไซน์เฟอร์นิเจอร์ของเมืองไทยที่เติบโตคู่คนไทยมากว่า 50 ปี ได้ส่งมอบความสุขด้วยสินค้าและบริการคุณภาพแก่ลูกค้าไปแล้วกว่าล้านหลังคาเรือน   บริษัทยังคงมุ่งมั่นพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งในการสร้างสรรค์ผลงานเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของคุณภาพชีวิตและการอยู่อาศัยที่ดีให้กับลูกค้า  เช่น ปฏิวัติการผลิตเฟอร์นิเจอร์ โดยเปลี่ยนมาใช้ไม้ E11  ในการผลิตทุกชิ้นส่วนของผลิตภัณฑ์เป็นรายแรกของประเทศ ตั้งแต่ พ.ศ. 2546   ริเริ่มบริการ 3D Pro Designer และ SB Interior@Home ซึ่งเป็นบริการที่ช่วยอำนวยความสะดวก ให้ทุกเรื่องแต่งบ้านของลูกค้าเป็นเรื่องสะดวกสบายและง่ายขึ้น   รวมถึงการพัฒนา SB Design Square ให้เป็นศูนย์รวมการแต่งบ้านสุดวงจร ครบครันไปด้วยสินค้าและบริการเกี่ยวกับงานออกแบบตกแต่ง เพื่อความสวย ง่าย ตรงใจทุกเรื่องแต่งบ้านและตอบรับกับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน   

คุณพิเดช ชวาลดิฐ กรรมการบริหาร เล่าว่า “องค์กรมีอายุกว่า 50 ปี อยู่ในธุรกิจที่แต่ก่อนเรียกตัวเองว่าบริษัทค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ แต่จากการเปลี่ยนแปลงของความต้องการของลูกค้า จึงผันตัวเองเป็น Solution Provider บางอย่างให้แก่ลูกค้า โดยลูกค้ากลุ่มแรกๆ จะเป็น Gen X ต่อมาขยายเข้าสู่ Gen Y, Gen Z และ New Gen เรามองว่า กลุ่มหลังๆ จะมีช่องว่างเยอะ จึงขยายบริการสู่การเป็น Solution Provider สำหรับการแต่งบ้าน ทำให้มีเซ็กเมนต์ที่หลากหลาย ลูกค้ามาแล้วได้บริการจบในครั้งเดียว ซึ่งใช้เป็นแนวทางที่ขับเคลื่อนองค์กรในขณะนี้” 

“จุดเริ่มต้นของบริษัทฯ มาจากการขายเฟอร์นิเจอร์ เมื่อหลายสิบปีก่อนที่ลูกค้าต้องซื้อเฟอร์นิเจอร์ทีละตัวไปสร้างจินตนาการ ต่อมาบริษัทมีโชว์รูม เพื่อสร้างตามจินตนาการให้ลูกค้า นำเฟอร์นิเจอร์มาจัดโชว์เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจว่าอยากได้ทุกชิ้นไปอยู่ในบ้านไหม  ปัจจุบันจินตนาการปรับไปมาได้ตามที่ลูกค้าต้องการ เริ่มขยับจากเฟอร์นิเจอร์ โต๊ะ ตู้ เตียงปกติ ขยายไปที่กำแพง ที่ฝ้า ปัจจุบันเรามีสินค้าทั้งกลุ่มที่เป็นเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวและบิลท์อิน รวมถึงบริการช่วยออกแบบตกแต่งครบวงจร เพื่อเป็นคำตอบของการแต่งบ้านให้ลูกค้าได้แบบครบทุกมิติ นอกจากนี้ บริษัทมีทีมพัฒนา  Product และ Interior โดยในช่วง 5-10 ปีหลัง น้ำหนักของการพัฒนา Product และ Interior ถูกรวมไปกับบริการ ฉะนั้นจะเป็นการพัฒนาเทคโนโลยี และ Operation set บางอย่าง ให้ได้ผลิตภัณฑ์ใหม่แล้วก็เทคโนโลยีนั้น ก็กลายเป็นสิ่งที่ลูกค้าไม่เคยเห็นมาก่อน ปัจจุบันการที่บริษัทส่งซอฟต์ไฟล์ให้ลูกค้าสามารถปรับกำแพงเองได้ ปรับบานตู้เสื้อผ้าและขนาดเองได้  บริษัทฯ จึงไม่ใช่เพียงแค่ผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์ แต่เป็นผู้ออกแบบแนวคิดของการตกแต่งห้องซึ่งใช้ทั้งเทคโนโลยีและวัสดุใหม่ๆ มาเสริมกัน”

บริษัทได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิประโยชน์จากผลงานวิจัย “เตียงตื่นตัว” หรือ “เตียงนอนแบบมีกลไกช่วยผู้สูงอายุในการลุกนั่งและลุกขึ้นยืน” เพื่อการผลิตและจำหน่ายเชิงพาณิชย์ คุณพิเดชกล่าวว่า “บริษัทฯ มองว่าตอนนี้ผู้สูงอายุ เป็นกลุ่มลูกค้า ใหม่ หากมีนวัตกรรมบางอย่างเข้ามาเติมก็เป็นโอกาส แม้ว่าเตียงพับได้ในตลาดจะมีอยู่แล้ว แต่เตียงพับและหมุนได้ที่ช่วยพยุงคนป่วยหรือผู้สูงอายุในการลุกนั่งหรือลุกยืน เป็นสิ่งที่ไม่เคยมี ซึ่งส่วนตัวมีคุณพ่อที่เคยอยู่ในสภาวะเช่นนั้น บริษัทฯ จึงสนใจและขอรับอนุญาตการใช้สิทธิประโยชน์จากงานวิจัยขึ้น 
 
“บริษัทฯ ไม่ได้หวังจะขายจนได้กำไรมาก แต่เห็นว่าการมีสินค้าที่ขยายผลจากงานวิจัยของเอ็มเทค สวทช. และร่วมมือกับทีมวิจัยจนสามารถพัฒนาออกสู่ตลาดได้ จะเป็นภาพลักษณ์ใหม่ของบริษัทฯ ถือว่าบรรลุเป้าหมายแล้ว” 
 

“Aging Society หรือสังคมผู้สูงอายุ นับเป็นแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของโลก (Mega Trend) รวมถึงไทยเราด้วย ซึ่งสังคมไทยยังคงอาศัยอยู่ร่วมกับเป็นครอบครัวใหญ่ ลูกหลานต้องคอยดูแลคุณพ่อคุณแม่หรือผู้สูงอายุในบ้าน เอสบีในฐานะผู้ประกอบการภาคธุรกิจ เราก็มุ่งหวังที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนสังคมให้มีความพร้อมรับกับแนวโน้มสังคมที่จะเกิดขึ้น เราจึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับความร่วมมือจากทีมเอ็มเทคในการพัฒนาโปรเจค Power Lift Bed นี้ ให้เกิดขึ้นมาได้เอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในด้านรูปลักษณ์ที่สวยงามและฟังก์ชั่นใช้สอยที่ครบถ้วนสมบูรณ์ เชื่อว่าน่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถเข้าถึงและเป็นประโยชน์กับผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง”

การพัฒนาหลังจากได้รับถ่ายทอดเทคโนโลยี คุณพิเดช กล่าวว่า “มีการพัฒนาตั้งแต่รูปลักษณ์ ฟังก์ชั่นการใช้งาน และโครงสร้าง เพราะต้นแบบแรกอาจจะเน้นส่วนของกลไกและอิเล็กทรอนิกส์ แต่พอมาใช้งานจริงต้องมาพัฒนาร่วมกันต่อซึ่งใช้เวลาพอสมควร ขณะนี้ในส่วนของผลิตภัณฑ์ (เตียง) รูปลักษณ์ดูไม่เหมือนเตียงผู้ป่วย ปรับเพิ่มให้มีความนุ่มนวลมากขึ้น มีฟังก์ชั่นปรับการเคลื่อนที่และพยุงผู้สูงอายุให้สามารถยืนขึ้นมาได้ และเพิ่มระบบการชาร์จให้รองรับการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ สามารถใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์เตียงภายในบ้านได้”

การทำงานร่วมกับทีมวิจัยเอ็มเทคที่ผ่านมา คุณพิเดช กล่าวว่า “ตราบใดที่เอ็มเทคมีเป้าหมายในการผลิตผลงานให้เกิดการใช้ประโยชน์ ไม่ว่าจะผ่านเอกชน หรือผ่านพันธมิตร มุมมองหรือเทคโนโลยีเหล่านั้นถ้าได้รับพัฒนาร่วมกันด้วยจุดประสงค์เดียวกัน ก็สามารถทำให้เป็นจริงได้”

 “Aging Society หรือสังคมผู้สูงอายุ นับเป็นแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของโลก (Mega Trend) รวมถึงไทยเราด้วย  ซึ่งสังคมไทยยังคงอาศัยอยู่ร่วมกับเป็นครอบครัวใหญ่ ลูกหลานต้องคอยดูแลคุณพ่อคุณแม่หรือผู้สูงอายุในบ้าน เอสบีในฐานะผู้ประกอบการภาคธุรกิจ เราก็มุ่งหวังที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนสังคมให้มีความพร้อมรับกับแนวโน้มสังคมที่จะเกิดขึ้น เราจึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับความร่วมมือจากทีมเอ็มเทคในการพัฒนาโปรเจค Power Lift Bed นี้ ให้เกิดขึ้นมาได้เอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในด้านรูปลักษณ์ที่สวยงามและฟังก์ชั่นใช้สอยที่ครบถ้วนสมบูรณ์ เชื่อว่าน่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถเข้าถึงและเป็นประโยชน์กับผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง”  

“คุณพิเดช กล่าวทิ้งท้ายว่า ตอนนี้เอกชนรายใหญ่หลายรายมีความเห็นว่า ถ้ามีเทคโนโลยีจากภาครัฐแล้ว ร่วมมือกันในการนำออกตลาดโดยไม่หวังผลประโยชน์ในทางการค้า ก็มีหลายรายที่พร้อม อยู่ที่เอ็มเทคว่าจะกำหนดทิศทางอย่างไร เน้นเรื่องไหนด้านผู้สูงอายุ  การเกษตร หรืออื่นๆ ตราบใดก็ตามที่วัตถุประสงค์ ตรงกันที่จะพัฒนาให้มีสิ่งเหล่านี้เป็นทางเลือก คิดว่าเรื่องอะไรก็สำเร็จ แต่โจทย์สำคัญคือพฤติกรรมและการตัดสินใจของผู้บริโภคมากกว่า หากมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน ผ่านการทำวิจัยความต้องการของลูกค้า ในแง่มุมต่างๆ เช่น งบประมาณหรือกำลังซื้อ ก่อนที่จะโฟกัสไปที่ตัวผลิตภัณฑ์”

 E1 1 เป็นมาตรฐานที่กำหนดไว้ว่า ไม้ที่ผ่าน E1 จะมีสาร formaldehyde ไม่เกิน 0.1 ppm เหมาะสำหรับใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ในโรงพยาบาล บ้านพักคนชรา ของเล่นเด็ก และเหมาะสำหรับบุคคลที่ใส่ใจสุขภาพ E1 1